ผักออร์แกนิคนั้นได้มาจากเมล็ดพันธุ์ที่ไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรม ปลูกด้วยกระบวนการแบบธรรมชาติ โดยใช้ดินและน้ำที่สะอาดปราศจากการปนเปื้อนสารเคมี บำรุงดินด้วยปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก โดยไม่พึ่งพาสารเคมีและสารสังเคราะห์จำพวกปุ๋ยเคมี สารกำจัดศัตรูพืช หรือฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตใด ๆ

ด้วยกระบวนการผลิตที่มุ่งเน้นความสะอาดและปลอดภัยเป็นหลัก ทำให้ได้ผลผลิตที่เป็นธรรมชาติแบบ 100 % ดังนั้น หากได้บริโภคผักออร์แกนิคเป็นประจำ ประโยชน์ที่จะได้รับก็คือ

  • ได้บริโภคผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคที่สด สะอาด ปลอดภัย ไร้สารพิษตกค้างจากสารเคมีทางการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมีและสารเคมีกำจัดศัตรูพืช ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง และความเจ็บป่วยจากโรคเรื้อรังครับ
  • ผู้ที่ทานผักออร์แกนิคเป็นประจำ ร่างกายจะแข็งแรงขึ้น การเจ็บป่วยลดลง การสะสมสารพิษในร่างกายลดลง สามารถฟื้นฟูสุขภาพได้รวดเร็ว และสุขภาพจะดีขึ้นในระยะยาว เพราะร่างกายจะได้รับสารอาหารมีประโยชน์ และสะอาด ปลอดภัย เหมือนใช้น้ำดีไล่น้ำเสียออกจากร่างกายครับ
  • ทานผักออร์แกนิคช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล แน่นอนครับว่าเมื่อเราสุขภาพดีขึ้น การเจ็บป่วยลดลง ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการรักษาพยาบาล เช่น ค่าเดินทาง ค่ายารักษา ก็ต้องลดลงด้วย ที่สำคัญเรายังช่วยประหยัดเวลาทั้งของตัวเราเอง และลดภาระแพทย์ พยาบาลที่ต้องมาดูแลผู้ป่วยจากโรคที่เกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่ปลอดภัยได้อีกด้วยนะครับ
  • ส่วนคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ทานผักออร์แกนิคเป็นประจำ นอกจากจะดีต่อสุขภาพของตัวเองแล้ว สารอาหารที่มีประโยชน์ สะอาด และปลอดภัย จะถูกส่งไปยังลูกน้อยอีกด้วย ซึ่งจะทำให้ลูกในครรภ์มีพื้นฐานสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ตั้งแต่แรกคลอด ลดอาการเจ็บป่วย อาการแพ้ และช่วยลดอัตราเสี่ยงของเด็กที่จะเกิดมาผิดปกติจากการได้รับสารพิษผ่านทางอาหารที่ได้รับจากแม่สู่ลูก
  • ผู้ที่รับประทานผักออร์แกนิคเป็นประจำ นอกจากร่างกายจะปลอดภัยจากสารเคมีทางการเกษตรแล้ว เรายังปลอดภัยจากสารปรุงแต่งที่อยู่ในผลิตภัณฑ์อาหารออร์แกนิคแปรรูปอื่น ๆ อีกด้วย เช่น สารกันบูด เพราะตลอดกระบวนการผลิตและแปรรูปผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์ออร์แกนิคจะไม่มีการเติมสารปรุงแต่งอาหารใด ๆ เลย
  • การได้บริโภคผักออร์แกนิคทำให้มีสุขภาพจิตดีขึ้น เพราะสุขภาพจิตจะดีได้ต้องอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง เมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหาเจ็บป่วย

1. ขึ้นฉ่าย (Celery)

เป็นผักที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาและคุ้นกลิ่นกันเป็นอย่างดี เพราะเป็นสมุนไพรที่มีกลิ่นฉุนเฉพาะตัว จึงนิยมนำมาใช้ใส่ในอาหารเพื่อความหอมหรือดับกลิ่นคาวจากเนื้อสัตว์ครับ บางคนนำมาปั่นรวมกับผลไม้เป็นเครื่องดื่มแนวสุขภาพ ซึ่งมีทั้งใยอาหาร โพแทสเซียม และโพลีฟีนอลซึ่งช่วยลดความดันโลหิต ลดการอักเสบ และป้องกันมะเร็งได้

2. ปวยเล้ง (Spinach)

จัดเป็นผักและสมุนไพรที่ทานได้ทั้งแบบสดและปรุงสุก อีกทั้งยังเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยเพราะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค เหล็ก โฟเลต แคลเซียม ซึ่งช่วยบำรุงกำลัง ช่วยให้ผ่อนคลาย แก้ร้อนใน ช่วยบำรุงสายตา รักษาอาการท้องผูก และป้องกันโรคโลหิตจาง

3. ผักกาดหอมบัตเตอร์เฮด (Butterhead Lettuce)

เป็นผักสลัดที่อุดมไปด้วยใยอาหาร เนื้อสัมผัสกรุบกรอบ มีสารอาหารสำคัญ เช่น โพแทสเซียม ไฟโตนิวเตรียนท์ มีสารฟลาโวนอยด์ซึ่งทำช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยควบคุมความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ ช่วยปกป้องดวงตาและป้องกันการเสื่อมสภาพของจอประสาทตา ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก


4. เคล (Kale)

เป็นผักสลัดที่มีแคลอรีต่ำ ไฟเบอร์สูงและมีซัลเฟอร์สูง ช่วยล้างสารพิษโดยธรรมชาติ มีธาตุเหล็กสูง ช่วยการไหลเวียนโลหิต มีแคโรทีนอยด์ โพลีฟีนอล และฟลาโวนอยด์ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีลูทีนและซีแซนทีนช่วยดูแลสุขภาพตา

5. สวิสชาร์ด (Swiss chard)

เป็นผักทานสดที่มีใยอาหารสูง และมีสารอาหารสำคัญ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินเค แร่ธาตุเหล็ก แมงกานีส โพแทสเซียม มีสารฟลาโวนอยด์ซึ่งช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่

Design By Jintana