- การกินผัก และผลไม้ไม่ได้มีดีเฉพาะในแง่สุขภาพโดยรวมเท่านั้น แต่ยังดีต่อคนที่ต้องการรักษารูปร่าง และลดน้ำหนักอีกด้วย จึงถือเป็นตัวเลือกหลักที่ถูกแนะนำให้กินในขณะควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากผัก และผลไม้บางชนิดเป็นอาหารมีไขมันต่ำ ให้พลังงานน้อย สามารถกินได้มาก ใยอาหารในผัก และผลไม้ช่วยให้อิ่มท้อง ดีต่อระบบย่อยอาหาร และการขับถ่าย
- เพียงแค่ 400 กรัมต่อวัน คุณประโยชน์มหาศาล
- การทานผักช่วยให้เราได้รับสารอาหารและแร่ธาตุมากมายหลายชนิด สำหรับคนที่ไม่ค่อยทานผักจะสังเกตตัวเองได้เลยว่า ร่างกายจะไม่ค่อยแข็งแรง ป่วยบ่อย ไม่สบายบ่อย ผักนั้นอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี ที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยต้านแบคทีเรีย สาเหตุที่ทำให้เราป่วยง่าย จึงต้องทานวิตามินซีเวลาที่เราเป็นหวัด การทานวิตามินซีช่วยให้ผิวพรรณผ่องใส และในผักมีวิตามินบี 1 และ วิตามินบี 2 ที่มีส่วนช่วยให้มีความจำดีอีกด้วย
- การทานผักมีส่วนช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ทำให้เราขับถ่ายง่าย สะดวก เพราะผักมีวิตามินบี 3 หรือที่รู้จักกันในชื่อไนอาซิน ที่เป็นตัวช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อระบบขับถ่ายทำงานดีส่งผลให้เราถ่ายได้คล่องขึ้นและส่งผลให้ผิวเราใสขึ้นตามไปด้วยเพราะร่างกายได้ขับของเสีย
- ผักมีส่วนช่วยบำรุงระบบการทำงานของตาช่วยให้เรามีสายตาที่ดี ชะลอการเสื่อมของตา เพราะในผักประกอบไปด้วย วิตามินเอ ที่ช่วยในการมองเห็น ถ้าอยากมีสายตาที่ชัดแจ๋วกับเราไปนาน ๆ ไม่ต้องอาศัยแว่นล่ะก็ต้องทานผัก
- เมื่อเราอายุมากขึ้น เซลล์ในร่างกายก็เสื่อมตามไปด้วย ถ้าหากเรารับประทานผักเป็นประจำและทานอย่างต่อเนื่อง ผักจะมีส่วนช่วยฟอกเลือดให้เลือดของเราสะอาด เมื่อเลือดของเราสะอาด เวลาร่างกายนำไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายก็จะช่วยต้านการเสื่อมสภาพของเซลล์
- ผักมีส่วนช่วยให้การป้องกันโรค ไม่ว่าจะเป็นโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน ความดัน โรคเกี่ยวกับลำไส้และตับ หรือโรคต่าง ๆ อีกมากมาย และที่สำคัญองค์การอนามัยโลกแนะนำให้ ในแต่ละวันควรบริโภคผักและผลไม้จำนวน 400 กรัม ซึ่งถือเป็นเกณฑ์ขั้นต่ำ หากเทียบง่ายๆ จะเท่ากับปริมาณ 4-6 ทัพพี แต่หากเป็นผักสุกต้องเพิ่มเป็น 2 เท่า ที่มา : https://bioveggie.net/content344/
วิธีการปลูก
วิธีปลูก ผักเคล
- นิยมใช้ระยะปลูก 50 x 50 เซนติเมตร ยิ่งปลูกห่างมาก ๆ ยิ่งดี เพราะเคลค่อนข้างโตเร็ว และมีทรงพุ่มกว้าง แถมยังช่วยป้องกันโรคและแมลงศัตรูได้ดี
- ควรรดน้ำวันละ 1 ครั้ง และใส่ปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อเพิ่มธาตุอาหารทุก ๆ 20-30 วัน
- สามารถเก็บเกี่ยวได้ตั้งแต่อายุ 45 วันเป็นต้นไป นิยมทยอยตัดใบด้านล่างไปรับประทาน
วิธีปลูก ผักโขม
- การปลูก โดยใช้เมล็ดหว่านห่าง ๆ ในแปลงที่เตรียมไว้ แล้วใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักหว่านคลุมทับเมล็ดให้หนาพอเหมาะ
- คลุมด้วยฟางข้าว เพื่อรักษาความชื้น และรดน้ำให้ชุ่มทุก ๆ วัน
- ควรให้ปุ๋ย ครั้งที่ 1 และ 2 เมื่อต้นพืชอายุได้ 30 วัน จากนั้น เมื่ออายุ 55-60 วัน ก่อนออกดอก ควรใส่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอกที่ผ่านการหมักแล้วลงไป
- การให้น้ำ ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ให้พอเหมาะกับพืช ไม่ควรให้แห้ง หรือแฉะมากเกินไป
- การเก็บเกี่ยว 20-25 วัน สามารถทยอยเก็บเกี่ยวได้
วิธีปลูก ผักคะน้าฝรั่ง
***ก่อนปลูกให้นำเมล็ดไปแช่น้ำทิ้งไว้ก่อนประมาณ 2 วัน จนมีรากงอกออกมาเล็กน้อย
1. นำดินหมักใบไม้แห้งใส่ไปก่อนให้ทั่วทุกหลุม หลุมละครึ่งหลุม
2. นำพีทมอสเทให้เต็มถาดแล้วปาดดินให้เสมอปากหลุมถาด
3. นำเมล็ดที่แช่น้ำไว้แล้ว 2 วัน เอามาลงปลูกได้เลย
4.ใช้เข็มมาเขี่ยให้เป็นรูเล็ก ๆ และหยอดเมล็ดลงไปและเอาพีทมอสมาโรยกลบทับอีกครั้ง
5. รดน้ำและนำไปไว้ในที่ร่มจนกว่าใบจะเริ่มออก
6. พอใบเริ่มออกและต้นมีอายุได้ 15 วัน เอาไปวางตากแดดในช่วงเช้าเพื่อสังเคราะห์แสง
7. ช่วงบ่ายเราก็เก็บมาไว้ในที่ร่มและรดน้ำให้ชุ่มชื้นทำแบบนี้ไปจนต้นอายุได้30วันเราก็สามารถให้ต้นรับแดดในช่วงบ่ายได้เลย
8. พอต้นอายุได้35วันเราก็เปลี่ยนไปใส่กระถางขนาด 5-12 นิ้วเพื่อให้รากเดินได้มากขึ้นการย้ายควรย้ายดี ๆ อย่าให้รากหลุดเด็ดขาด เพราะต้นอาจจะตายได้เลย
9. พอเราย้ายมาใส่กระถางแล้วประมาณ10วันให้หลังเราจะใส่มูลวัวและปุ่ยมูลไส้เดือนเพื่อเร่งใบ หรือสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลพืชแบบอินทรีย์ในช่วงนี้ได้เลย
10. พอใบเจริญเติบโตได้ที่ใบจะหยิกมาก โดยจะใช้ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
วิธีปลูก ผักสวิสชาร์ด
1.โดยทั่วไปจะเริ่มจากการเพาะเมล็ด นำเมล็ดแช่น้ำก่อน 8-12 ชั่วโมง ใน 1 เมล็ดจะมีต้นกล้างอกได้ 2 ต้น เมื่อเพาะกล้าได้ 5-7 วันตัดต้นกล้าออกให้เหลือ 1 ต้นและนำต้นกล้าออกมารับแสง เมื่อต้นกล้ามีอายุประมาณ 15-20 วัน สามารถย้ายลงแปลงหรือลงกระถางปลูกได้ ขนาดกระถาง 8 นิ้วขึ้นไป หากปลูกลงแปลงระยะปลูกประมาณ 20 เซนติเมตร การให้ปุ๋ยเน้นให้ปุ๋ยอินทรีย์ก็เพียงพอต่อการเจริญเติบโต
2.ดินที่ปลูกสวิสชาร์ดต้องมีลักษณะร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี มีความชื้นพอสมควร สามารถปลูกได้ทุกฤดู แต่จะให้ผลผลิตที่ดีในช่วงฤดูหนาวหรือในพื้นที่ที่มีอากาศเย็น
3. จะเริ่มเก็บเกี่ยวได้หลังจากปลูก 30-60 วัน ส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์จะเป็นส่วนใบและก้าน
วิธีปลูก ผัก Turnip greens
1.กำจัดวัชพืช ขึ้นแปลงกว้าง 1 เมตร ย่อยดินให้ละเอียด ใส่ปุ๋ย 12-24-12 อัตรา 30 กรัม/ตร.ม. ปุ๋ยคอกอัตรา 1 กก./ตร.ม. และโบแรกซ์อัตรา 1 กรัม/ตร.ม. (ถ้าพบดินขาดโบรอน) คลุกผสมกับดินให้ทั่ว ปรับหน้าดินให้เรียบ ขีดร่องลึก 0.5 ซม. ระยะปลูก 20 ซม. ระหว่างแถว 10 ซม. หยอดเมล็ดแล้วกลบดิน
2.ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรให้น้ำแฉะเกินไป อาจติดตั้งมิินิสปริงเกอร์หรือใช้หัวบัวฝอยรด
3.หลังจากหยอดเมล็ด ทำการถอนแยกเอาต้นที่อ่อนแอออกทิ้งและกำจัดวัชพืช เมื่ออายุได้ 10-15 วัน ใส่ปุ๋ย 8-24-24 โดยทำร่องลึก 2-3 ซม. ระหว่างต้น โรยปุ๋ยลงร่อง กลบดินและรดน้ำ
4.เก็บเกี่ยวเมื่ออายุได้ 40-50 วัน ควรถอนด้วยมือ ตัดใบให้เหลือ ยาว 1 นิ้ว อย่าให้ผิวถลอก ช้ำ ล้างหัวใ้ห้สะอาดผึ่งให้แห้ง
Design By Jintana