วิธีปลูก ผักกาดหอม

  1. การเตรียมดิน สามารถปลูกได้หลายแบบ เช่น ถุงดิน หรือปลูกในถาดหลุม ตามสะดวก นำดิน ปุ๋ยคอก และขุยมะพร้าว ผสมกันในอัตรา 1:1  จากนั้น รดน้ำให้ชุ่มแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ทิ้งไว้ในที่ร่มเป็นเวลา 7 วัน
  2. นำปุ๋ยที่ผสมแล้ว มาใส่ในดิน หรือถาดหลุม ให้เต็มแล้ว ใช้ไม้จิ้มลงกลางหลุม หยอดเมล็ดผักกาดหอมลงไป 1-2 เมล็ด แล้วกลบด้วยดิน
  3. รดน้ำแล้วนำไปไว้ในที่ร่มรำไร ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
  4. เมล็ดผักกาดหอม จะงอกหลังจากหยอดเมล็ดประมาณ 3-5 วัน เมื่อครบ 7 วัน ให้นำถุงดินไปวางที่แดด เพราะผักกาดหอมเป็นพืชที่ชอบแดด
  5. เมื่อครบ 40-45 วัน สามารถนำมาไปประกอบอาหารได้ **ควรรีบตัดผักกาดหอม อย่าปล่อยให้แก่เพราะจะทำให้แข็ง และขมไม่น่าทานได้

วิธีปลูก ผักกะหล่ำปลี

  1. เตรียมแปลงกว้าง  1-1.5  เมตร  ความยาวขึ้นอยู่กับพื้นที่ยกแปลงให้สูง  15-20  ซม. ปรับหน้าดินให้ละเอียด ผสมปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมักที่สลายตัวแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  2. จากนั้น หว่านเมล็ดให้กระจายอย่างสม่ำเสมอทั่วแปลง คลุมด้วยฟางข้าว และรดน้ำให้ชุ่ม
  3. เมื่อต้นกล้าเริ่มมีใบ 1-2  ใบ ฉีดยาป้องกันโรคและแมลง โดยใช้อะโซดรินผสมไดเทนเอ็ม 45 หรือคาโดนิลทุก 7-10  วัน และควรย้ายปลูกเมื่อต้นกล้ามีใบจริง  4  ใบ  หรืออายุประมาณ 25-30 วัน
  4. ใส่วัสดุเพาะ เรียกว่า มีเดีย(Media) ที่ใช้แทนดินเพาะ ใส่ลงไปปรับให้เรียบ รดน้ำให้ชุ่ม
  5. จากนั้น นำเมล็ดพันธุ์เพาะลงไปหลุมละ  1-2  เมล็ด  รดน้ำทุกวัน  หลังจากเพาะ  3-4  วัน
  6. พอเมล็ดเริ่มงอก ดูแลรักษาต่อไป 20-25 วัน ต้นกล้ามีใบจริง 4 ใบ สามารถย้ายลงไปปลูกในแปลงได้
  7. เลือกต้นกะหล่ำปลีที่ห่อหัวแน่น โดยใช้มีดตัด ให้มีใบติดมากับหัวกะหล่ำปลีด้วย

วิธีปลูก ใบกะเพรา

1.เริ่มจากเตรียมแปลงปลูกก่อนหว่านเมล็ดลงไป แต่อาจจะเริ่มจากการปักชำก้านที่เหลือจากการซื้อมาทำกับข้าวก็ได้พอต้นโตออกดอก เมล็ดที่หล่นก็งอกต้นใหม่อีกหลายต้น หลังเพาะประมาณ 7-10 วัน เมล็ดเริ่มงอก พอผ่านไป 15-30 วัน จึงเริ่มใส่ปุ๋ยยูเรียหรือแอมโมเนียมซัลเฟต 1-2 ช้อนชาต่อน้ำ 10 ลิตร รดทุก 5-7 วัน สำหรับการรดน้ำ ให้รดน้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอทุกวัน หลังปลูกไปประมาณ 30-35 วันก็เก็บกินได้ ส่วนเคล็ดลับที่จะทำให้ต้นกะเพราเก็บกินใบได้นาน ๆ ก็คือ อย่าให้ออกดอก พอออกดอกแล้วต้นจะโทรม อายุสั้น ถ้าออกดอกก็ให้หมั่นตัดทิ้งเป็นระยะ

วิธีปลูก โหระพา


          โหระพาเป็นพืชที่ปลูกครั้งเดียวสามารถเก็บเกี่ยวได้ 1-2 ปี เริ่มจากการเตรียมดิน ควรมีความร่วนซุย มีการระบายน้ำดี ต่อมาเริ่มขั้นตอนการปลูก ควรทำในเวลาเย็น วิธีการปลูกที่นิยมมี 2 วิธีด้วยกัน คือ การปักชำและการเพาะเมล็ด โหระพาเป็นพืชที่ต้องการความชื้นสูงและสม่ำเสมอ ดังนั้น จึงควรมีการรดน้ำทุกวัน แต่ระวังอย่าปล่อยให้มีการท่วมขังของน้ำในแปลง ในระยะแรกควรทำการพรวนดินและกำจัดพืชทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ ถ้าจะใส่ปุ๋ยให้ใช้ปุ๋ยแอมโมเนียมซัลเฟตในอัตรา 10 กิโลกรัมต่อไร่ ละลายน้ำรดหลังปลูกประมาณ 15-20 วัน จะทำให้เจริญเติบโตดียิ่งขึ้น หลังจากปลูกประมาณ 30-35 วัน สามารถทำการเก็บเกี่ยวได้แล้ว เช่นเดียวกับใบกะเพรา อย่าให้ออกดอก ถ้าออกดอกก็ตัดทิ้งเรื่อย ๆ จะทำให้เก็บกินใบโหระพาได้นาน ๆ

วิธีปลูก ผักบุ้งจีน

      ผักบุ้งที่รับประทานส่วนใหญ่คือ ผักบุ้งจีน ซึ่งปลูกง่าย เจริญเติบโตเร็ว การดูแลรักษาง่าย สามารถปลูกได้ตลอดปี และขึ้นได้ในดินทุกชนิด เริ่มจากการหว่านเมล็ด ต้นกล้าจะเริ่มงอก 2-3 วัน หลังหยอดเมล็ด ผักบุ้งชอบดินที่มีความชื้นสูง ดั้งนั้น ควรให้น้ำบ่อย ๆ อย่าให้ขาดน้ำ เพราะผักบุ้งอาจจะชะงักการเจริญเติบโต แคระแกร็น และไม่จำเป็นต้องกำจัดศัตรูพืช เพราะเป็นผักที่มีอายุสั้นและเจริญเติบโตเร็วมาก สามารถขึ้นคลุมพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากหว่านเมล็ดประมาณ 25-30 วันก็สามารถเก็บเกี่ยวได้โดยใช้มือถอนทั้งรากแล้วนำมาล้างให้สะอาด หรือหากไม่ถอนสามารถใช้มือเด็ดหรือมีดตัดยอดไปบริโภคและปล่อยโคนไว้

วิธีการปลูก พริก

 การปลูกพริกนั้นทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่นำเมล็ดพริกไปหยอดในหลุมที่เตรียมไว้หลุมละ 3-5 เมล็ด กลบแล้วก็รดน้ำ สำหรับพริกเป็นพืชที่ทนแล้งดีกว่าทนน้ำ แต่ในระยะที่พริกเริ่มออกดอก พริกจะต้องการน้ำมากกว่าปกติ ช่วง 3 วันแรกควรให้น้ำวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จนผ่านไป 7 สัปดาห์ก็ให้น้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง พริกจะเริ่มให้ผลผลิตหลังจากปลูกแล้ว 2 เดือนครึ่ง – 3 เดือน ในระยะแรกผลผลิตจะได้น้อยและจะค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ควรเก็บเกี่ยวอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ทั้งนี้ ผลผลิตจะเริ่มลดลงเมื่อพริกเริ่มแก่